กฎ 10 ข้อ ของพาร์กินสัน ของ ซีริล นอร์ทโคท พาร์กินสัน

1.กฎของพาร์กินสัน (Parkinson's Law, or The Rising Pyramid)เพื่อให้งานเสร็จสิ้น งานจะขยายออกไปจนเต็มเวลาที่มีอยู่ ข้อเท็จจริงนี้เป็นที่ยอมรับ ดังปรากฏในสุภาษิตว่า “คนที่ยุ่งที่สุดคือคนที่มีเวลาเหลือ” ดังนั้น หญิงชราที่มีเวลาว่างอาจจะใช้เวลาทั้งวันในการเขียนจดหมายถึงหลานสาว เธออาจจะใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงค้นหาไปรษณียบัตร หนึ่งชั่วโมงค้นหาแว่นตา ครึ่งชั่วโมงค้นหาที่อยู่ อีกหนึ่งชั่วโมงสิบห้านาทีเป็นเวลาเขียนข้อความ และใช้เวลาอีกยี่สิบนาทีตกลงใจว่าเมื่อออกจากบ้านไปทิ้งจดหมายที่ตู้ไปรษณีย์ที่ถนนถัดไป จะนำร่มไปด้วยหรือไม่ ในความพยายามทั้งหมดนี้ ถ้าเป็นคนที่มีภาระมากเขาอาจจะใช้เวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น

2.ความตั้งใจของประชาชนหรือการประชุมทั่วไปประจำปี (The Will of the People, or Annual General Meeting)

3.การเงินระดับสูงหรือจุดที่ความสนใจหายไป (High Finance, or The Point of Vanishing Interest) การประชุมจะใช้เวลาพิจารณาหัวข้อประชุม แปรผกผันกับจำนวนเงิน จำนวนเงินยิ่งมาก จะยิ่งใช้เวลาน้อยตามไป

4.ผู้อำนวยการและคณะรัฐมนตรี หรือสัมประสิทธิ์ของการไร้ประสิทธิภาพ (Directors and Councils, or Coefficient of Inefficiency)จำนวนของคณะกรรมการที่มีมากเกินไป จะทำให้การประชุมไม่มีประสิทธิภาพ

5.รายชื่อ หรือหลักการคัดเลือก (The Short List, or Principles of Selection)

6.แผนการ หรือแบบอาคารบริหาร (Plans and Plants, or The Administration Block)การบริหารงานให้เกิดผลสูงสุด ไม่ได้อยู่ที่แบบอาคาร หรือขนาดของห้องทำงานผู้บริหาร

7.บุคลิกภาพ หรือ สูตรของค๊อกเทล (Personality Screen, or The Cocktail Formula)บุคคลที่สำคัญที่สุดในงาน ไม่ใช่คนที่มีบุคลิกภาพดีที่สุดเท่านั้น

8.โรค Injelititis หรือ อัมพาตทำให้สิ้นกำลัง (Injelititis, or Palsied Paralysis)เมื่อในที่ทำงานมีคนที่เป็นอัมพาตในการทำงาน นิ่งเฉย เพียงหนึ่งคน จะทำให้องค์กรเกิดอัมพาตในไม่ช้า

9.จากหลังคามุงจากถึงรถยนต์แฟ็คการ์ด หรือสูตรเพื่อความสำเร็จ (Palm Thatch to Packard, or A Formula for Success)บุคคลที่ไม่เปลี่ยนฐานะภายนอก ตามฐานะทางการเงินที่เพิ่มขึ้น จะได้เปรียบกว่า

10.จุดบำนาญหรืออายุที่เกษียณ (Pension Point, or The Age of Retirement)จุดที่เป็นจุดแปรผันของคนทำงาน คือ 47 ปี